วันเสาร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

กี๊ก AEC หญิงเก่งจิตอาสา


หากจะพูดถึงแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับ AEC ในโลกออนไลน์แล้ว หลายคนคงเคยได้ยินโซเชียลเพจชื่อว่า “AEC Geek” ที่ก่อตั้งโดย ดร.มนธ์สินี กีรติไกรนนท์ หรือ ดร.เหมียว ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวนองค์กรให้คำปรึกษาและวิจัยระดับโลก
ดร.มนธ์สินี กีรติไกรนนท์

จุดเริ่มต้นของการก่อตั้งเพจ AEC Geek มาจากการที่ ดร.เหมียว ได้มีโอกาสเป็นที่ปรึกษาให้กับองค์กรใหญ่ๆ ระดับแถวหน้าของประเทศที่มีการขยายการลงทุนออกไปยังต่างประเทศ จึงทำให้เกิดความคิดที่อยากจะแชร์ข้อมูล ความรู้ ประสบการณ์ และเครื่องมือต่างๆ เชิงกลยุทธ์ที่มีประโยชน์ให้กับองค์กรขนาดเล็กอย่าง SMEs ซึ่งมีสัดส่วนมากถึง 95% ของบริษัททั้งหมดในประเทศไทย เพื่อสร้างศักยภาพ ในการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ AEC ได้อย่างแข็งแกร่ง

“องค์กรใหญ่ๆ เค้ามีกำลังมากพอที่จะจ้างบริษัทที่ปรึกษาในการดำเนินกลยุทธ์ได้ เราจึงรู้สึกว่าพวกเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ คำแนะนำที่มีประโยชน์ทั้งหลาย เราอยากจะนำมาใช้กับรายย่อยที่ไม่มีกำลังหรือโอกาสในการเข้าถึงสิ่งเหล่านี้ด้วย” ดร.เหมียว กล่าวในรายการโทรทัศน์แห่งหนึ่ง

ดร.เหมียว ริเริ่มเวปเพจ AEC Geek ด้วยการรวบรวมคนกลุ่มหนึ่งที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่อง AEC อย่างรู้จริง โดยเริ่มเปิดให้บริการครั้งแรกวันที่ 12 กรกฎาคม 2555 ด้วยระยะเวลาเพียง 2 เดือนมีผู้สนใจเข้ามาร่วมเป็นสมาชิกมากถึง 20,254 คนทั้งที่ไม่ได้มีการโปรโมทหรือทำประชาสัมพันธ์มากมาย แต่จะเน้นการเอาข้อมูลเชิงวิเคราะห์มาเล่าให้ฟัง

สิ่งที่ทำให้ AEC Geek ประสบความสำเร็จอย่างมาก นั้นคือการนำ Business Model ระดับสากล มาใช้ประกอบในการวิเคราะห์ข้อมูลและนำมาเล่าให้ฟังอย่างเข้าใจง่าย ปัจจุบันมีสมาชิก 56,099 คน

ต่อมาได้มีการเชิญชวนสมาชิกที่มีความสนใจและมีจิตอาสา จัดตั้งเป็นกลุ่มจิตอาสาทางธุรกิจ หรือที่เรียกว่า “อาสากูรู” ขึ้นเพื่อทำงานร่วมกับเจ้าของธุรกิจไทย ซึ่งเป็นโครงการจิตอาสาที่ต้องการฝึกฝนตนเองเพื่อเตรียมตัวเป็นที่ปรึกษาทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการไทยโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย มุ่งหวังที่จะเสริมสร้างศักยภาพ SME ไทยภายใต้โครงการที่ชื่อว่า Driving Value Innovation For Thai Business นับเป็นส่วนผสมที่ลงตัวของกระแสนิยม 3 อย่างคือ โซเชียลมีเดีย จิตอาสา และAEC

นอกจากนี้ ดร.เหมียว ยังมีโอกาสให้สัมภาษณ์ตามสื่อต่างๆ ในนามของ ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน เกี่ยวกับผลงานวิจัยและข้อแนะนำที่จะช่วยให้ภาคธุรกิจสามารถเตรียมรับมือกับการก้าวสู่ AEC ได้ อาทิ นำเสนอโมเดล EHL เพื่อใช้ในการวางแผนระยะยาว สำหรับธุรกิจค้าปลีกและสินค้าอุปโภคบริโภค งานวิจัยแนวโน้มการเติบโตด้านอุตสาหกรรมไอทีภายใต้ระบบ 3G และAEC กลยุทธ์ในการสร้างภูมิคุ้มกันทางธุรกิจรองรับการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท เป็นต้น

ดร.มนธ์สินี กีรติไกรนนท์ มีประสบการณ์ทำงานในแวดวง ICT มากว่า 12 ปี โดยจบปริญญาตรีสาขาบริหารธุรกิจ (B.B.A) จากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ จากนั้นไปต่อปริญญาโทและเอก ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (ICT) จากมหาวิทยาลัยเทมเปิล ประเทศสหรัฐอเมริกา เริ่มทำงานกับบริษัทผู้ให้บริการด้านการสื่อสารแห่งหนึ่งในรัฐนิวเจอร์ซีย์

แต่ภายหลังเกิดเหตุการณ์ 11 กันยายน จึงได้เดินทางกลับมาทำงานที่ประเทศไทย โดยดูแลในส่วนกลยุทธ์และผลิตภัณฑ์ให้กับบริษัททรูฯ อยู่ 5 ปี

ปัจจุบัน ดร.มนธ์สินี ร่วมงานกับบริษัท ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน ได้ประมาณกว่า 2 ปี มีผลงานเขียนหนังสือเรื่อง การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของระบบโทรคมนาคมในประเทศไทย พิมพ์จำหน่ายทั่วโลก นอกจากนี้ ยังเป็นอาจารย์พิเศษภาควิชาการจัดการโทรคมนาคม ให้กับมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ และภาควิชา International MBA ที่ มหาวิทยาลัยมหิดลอีกด้วย

ดร.เหมียว เป็นลูกสาวคนที่ 2 ในบรรดาพี่น้อง 5 คน สมัยเด็กมีความฝันอยากเป็นดีเจ เพราะชอบดูหนัง ฟังเพลง และงานศิลปะ เป็นเด็กกิจกรรมเข้าชมรมต่างๆ อาทิ AIESEC ชมรมนักร้องประสานเสียง และบาสเกตบอล เป็นต้น เป็นคนที่มีบุคลิกอยากรู้อยากเห็น และไม่ย่อท้อเมื่อเจออุปสรรคแต่จะพิสูจน์ให้เห็นว่าทำได้ โดยถือคติ “Every problem has a solution” และมีไอดอลในดวงใจคือ โอปราห์ วินฟรีย์ คำขวัญที่มักจะบอกกับทีมงานอยู่เสมอคือ สร้างสรรค์ ทะเยอทะยาน และอดทน

เป็นที่น่าสนใจว่าผู้หญิงเก่งคนนี้จะสามารถนำพากลุ่มจิตอาสาให้เป็นกำลังสำคัญในการช่วยให้ SMEs ไทยสามารถติดปีกทะยานไปโลดแล่นในเวทีอาเซียนได้อย่างที่ตั้งใจไว้หรือไม่

โดย พิรุณ ศรีวุฒิชาญ - AEC World - หนังสือพิมพ์ ฐานเศรษฐกิจ

วันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

‘มือหนึ่ง’ เชื่อมเพื่อนบ้าน


นายนิยม ไวยรัชพานิช รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และประธานคณะกรรมการความร่วมมือเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน เป็นหนึ่งบุคคลผู้มีบทบาทสำคัญในการเตรียมความพร้อมให้กับประเทศไทยก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ที่สมาชิก 10 ประเทศ มีกำหนดรวมกันปลายปี 2558
นายนิยม ไวยรัชพาณิช

ช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ในฐานะประธานคณะกรรมการความร่วมมือเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้านนายนิยมได้ทำหน้าที่อย่างแข็งขันในการพัฒนาเศรษฐกิจตามแนวชายแดน โดยทำหน้าที่เชื่อมประสานการค้าระหว่างนักธุรกิจของไทยและประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนที่จะก้าวเข้าสู่เขตการค้าเสรีด้านสินค้าและบริการ

นายนิยม ยังเป็นหนึ่งในคณะกรรมการที่ปรึกษาให้กับศูนย์ AEC Prompt ที่จัดตั้งขึ้นโดยหอการค้าและสภาหอการค้าไทยมีจุดประสงค์เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการ SME โดยเป็นหน่วยงานหลักในการเฝ้าติดตาม ศึกษา วิเคราะห์ เตือนภัย แสวงหาลู่ทาง โอกาส และขจัดอุปสรรคของ AEC ให้กับทุกภาคส่วนที่มีส่วนได้ส่วนเสีย ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกร ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม และภาคบริการ

นอกจากนี้นายนิยม ยังเป็นที่ปรึกษาหอการค้าจังหวัดตาก ที่ปรึกษาให้กับโครงการวิจัย “การค้าระหว่างประเทศทางบกด้านเหนือและด้านตะวันตก” โดยมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เป็นที่ปรึกษาให้กับคณะทำงาน “การจักการความรู้จังหวัดตาก” หรือ TAK KM และเป็นคณะกรรมการกำกับการศึกษาให้กับการวิจัย โครงการศึกษาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่ผู้ประกอบการขนส่งทางถนนระหว่างประเทศ ภายใต้การสนับสนุนจากกรมขนส่งทางบกอีกด้วย

ในด้านการเผยแพร่ข้อมูลและความรู้ต่างๆ นายนิยม ได้เขียนหนังสือ “การค้าชายแดนไทยกับประเทศสหภาพพม่าที่มีผลต่อเศรษฐกิจไทย” และเดินสายเป็นวิทยากรรับเชิญให้กับงานสัมมนาต่างๆ มากมาย ล่าสุดได้รับเชิญให้ไปบรรยายเกี่ยวกับเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนเชียงราย โดยชี้ให้เห็นว่า อำเภอแม่สายนั้นมีศักยภาพสูงเพราะเชื่อมโยงไปถึง 4 ประเทศ คือ ไทย ลาว เมียนมาร์ และจีนตอนใต้ แม้ยังไม่เกิด AEC อย่างเต็มรูปแบบในปี 2558 แต่การเคลื่อนย้ายของสินค้าและคนอย่างเสรีก็ได้เกิดขึ้นแล้ว

นายนิยม เคยแสดงวิสัยทัศน์ไว้ดังนี้ “เราทำการค้าชายแดนทางตอนเหนือปีละประมาณ 1 ล้านล้านบาท ประชากรเพียง 100 ล้านคน ถ้าจะให้มากกว่านี้ก็ต้องค้าไปเวียดนามอีก 90 ล้านคน ข้ามไปจีนตอนใต้ มณฑลยูนนาน 45 ล้านคน มณฑลเสฉวน 90 ล้านคน ฉงชิง 30 ล้านคน และทิเบตอีกประมาณกว่า 20 ล้านคน ความจริงค้ากับจีนสินค้าก็ไปถึงหนานหนิงและเซี่ยงไฮ้ได้ ผมว่าเศรษฐกิจชายแดนถึง 4 ล้านล้านบาทเลยทีเดียว และกำลังซื้อดีวันดีคืนด้วย เติบโตได้ปีละ 20 %”

นายนิยม ยังมีส่วนร่วมในการตั้งสภาธุรกิจเพื่อความร่วมมือระหว่างกัน อาทิ สภาธุรกิจไทย-สปป.ลาว โดยสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เพื่อการพบปะเจรจาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางด้านการค้าระหว่างเอกชนของทั้ง 2 ประเทศ

ด้วยบทบาทหน้าที่และประสบการณ์ที่คร่ำหวอด คงต้องมาจับตาดูกันว่า นายนิยม ไวรัชพานิช จะสามารถผลักดันการค้าเศรษฐกิจชายแดนของไทยให้มีการเติบโตและแข็งแกร่งพร้อมรับมือกับการเปิด AEC ได้มากน้อยแค่ไหน

ประวัติส่วนตัวนายนิยม ไวยรัชพาณิช เป็นคนฉะเชิงเทรา เกิด 3 พฤษภาคม 2488 พ่อชื่อ “เทียม” มีพี่น้องรวม 10 คน คือนายนิคม ไวยรัชพาณิช ประธานวุฒิสภาคนปัจจุบันซึ่งเป็นน้อง นางสุภา ตันเจริญ นางมาลี นพเกตุ (เสียชีวิต) นายภุชงค์ ไวยรัชพาณิช ปัจจุบันดูแลโรงสีพูลศรีวัฒนาที่ฉะเชิงเทรา นายอุดม ไวยรัชพาณิช นางรัชนีย์ เอี่ยมสกุล นายนิพนธ์ ไวยรัชพาณิช นายทรงศักดิ์ ไวยรัชพาณิช นายสากล ไวยรัชพาณิช และนายสุนทร ไวยรัชพาณิช

ทางด้านการศึกษา นายนิยม จบปริญญาตรี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปรอ.) รุ่น 377 เป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท ศรีนิยม จำกัด ทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง เกษตรและอสังหาริมทรัพย์ และเป็นประธานกรรมการศูนย์การค้าพาเจริญ และกรรมการบริษัท เมียนมาร์ เอกรัฐ จำกัด ผลิตหม้อแปลงในเมียนมาร์

นายนิยม เป็นประธานหอการค้าจังหวัดตากสองสมัย พ.ศ. 2535-2538 และแวะเวียนอยู่ในแวดวงการเมืองบ้างเป็นกรรมาธิการรัฐสภาหลายชุด ส่วนใหญ่ในเรื่องการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน เคยเป็นปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคชาติไทยพัฒนา ในสมัยที่ยังเป็นพรรคชาติไทยและเคยได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาด้านสหกรณ์ในปี 2543 สมัยที่นายประพัฒน์ โพธสุธน คีย์แมนคนหนึ่งของพรรคชาติไทยพัฒนา เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

โดย พิรุณ ศรีวุฒิชาญ - AEC World - หนังสือพิมพ์ ฐานเศรษฐกิจ