นายจอห์น
เปง (John Pang)
เป็นพ่อบ้านคนสำคัญของสมาคมนักธุรกิจอาเซียน (ASEAN Business Club)
ในตำแหน่งเลขาธิการสมาคม ซึ่งอย่างที่ทราบกันว่าสมาคมนี้ตั้งขึ้นเชื่อมโยงผู้นำธุรกิจระดับเบิ้มๆ
ของแต่ละประเทศในอาเซียนให้มารู้จักกันและช่วยกันผลักดันแผนจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
ผู้ผลักดันให้เกิด สมาคมนักธุรกิจอาเซียน คนสำคัญคือ ดาโต๊ะ ศรี นาเซียร์ ราซัค
บอสใหญ่แบงก์ซีไอเอ็มบี
ดังนั้นพ่อบ้านของสมาคมคนนี้จึงมาจากแบงก์ซีไอเอ็มบีเหมือนกัน
![]() |
จอห์น เปง (John Pang) |
ปัจจุบันนายจอห์น เปง เป็นซีอีโอของสถาบันวิจัยศึกษา
ซีไอเอ็มบี อาเซียน หรือ CIMB ASEAN Research Institute (CARI)
เป็นสถาบันที่ก่อตั้งขึ้นโดยบอสใหญ่ของแบงก์ซีไอเอ็มบี ในปี 2553
เพื่อเป็นองค์กรอิสระที่มีภารกิจหลักในการผสานความร่วมมือทางสังคมและเศรษฐกิจของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยมีการเขียนวิสัยทัศน์ไว้ชัดเจนว่า
“ประเทศสมาชิกอาเซียนลงนามข้อตกลงจะรวมกันเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
(เออีซี) ภายในปี 2558 แต่มีภาคธุรกิจของประเทศสมาชิกเพียง 20%
จากทั้งหมดที่ระบุถึงเออีซี ในแผนธุรกิจของแต่ละบริษัท
จึงเป็นที่ชัดเจนว่าการรวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเป็นงานสำคัญเกินกว่าจะให้ภาครัฐดำเนินการฝ่ายเดียว
ภาคเอกชนและองค์กรอิสระต้องช่วยให้มีเรื่องเออีซีอยู่ในแผนธุรกิจของทุกบริษัท”
เท่ากับว่า นายจอห์น เปง
เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CARI และเลขาธิการสมาคมนักธุรกิจอาเซียนควบคู่กันไป
ซึ่งความจริงทั้งสององค์กรก็มีภารกิจเดียวกัน โดยในชฐานะเลขาธิการสมาคม
เขาได้แสดงวิสัยทัศน์ว่า ขณะนี้ระบบเศรษฐกิจโลกได้มีการเปลี่ยนแปลงไปแล้ว เศรษฐกิจของเอเชียจะมีความสำคัญมากขึ้น
ประเทศจีน อินเดียและอาเซียนจะเป็นกลไกหลักในการพัฒนาเศรษฐกิจของโลก และอาเซียนมีโครงสร้างและทำเลดีที่สุดในเรื่องของการค้าขายระหว่างประเทศ
นายจอห์น เปง
มีภูมิหลังเป็นนักวิชาการหนุ่มที่โด่งดังขึ้นมาอย่างรวดเร็วจากความรู้ที่หลากหลายแขนง
เขาจบปริญญาตรีและปริญญาโท สาขาปรัชญาเศรษฐศาสตร์ จากวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์และรัฐศาสตร์แห่งลอนดอน (LSE - London School of Economics) ปริญญาเอกในสาขาปรัชญาการเมืองและศาสนมานุษยวิทยา จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด
ประเทศสหรัฐอเมริกา
นายจอห์นเคยดำรงตำแหน่งนักวิชาการรับเชิญอาวุโสอยู่ที่
สถาบันการศึกษาระหว่างประเทศ
เอส ราชารัตนัม (S. Rajaratnam School of International Studies - RSIS) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีหนานหยาง
(Nanyang Technological University) ประเทศสิงคโปร์
ในทางการเมือง นายจอห์น เป็น1ที่ปรึกษาให้กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการของมาเลเซีย
และยังเคยมีส่วนร่วมในการริเริ่มบริษัทบริหารจัดการความเสี่ยงและกลยุทธ์ด้านการสื่อสารแห่งภูมภาคอีกด้วย
นอกจากนี้ยังเคยร่วมงานกับ แมคคินซี แอนด์ คอมพานี ในโครงการด้านการบิน
น้ำมันและก๊าซ และพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ จนกระทั่งเดือนเมษายน 2553 จอห์นจึงได้เข้าดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
(CEO) ของสถาบันวิจัยแห่งอาเซียน
คงต้องจับตาดูว่านายจอห์น เปง
คนนี้จะมีส่วนผลักดันให้บริษัทต่างๆ ของประเทศสมาชิกอาเซียน
บรรจุแผนงานเกี่ยวกับเออีซี ไว้ในแผนธุรกิจของบริษัทได้อย่างไร
โดย พิรุณ ศรีวุฒิชาญ - AEC World - หนังสือพิมพ์ ฐานเศรษฐกิจ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น